ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร “ป้าแมว” วัย 58ปี เผยเรื่องราวของตัวเอง ที่ชีวิตพลิกผันในวัยสาว ทำงานเป็นสาวบาร์เบียร์ ในเมืองหลวง หาเงินส่งทางบ้าน ได้เป็นกอบเป็นกำ แต่สุดท้ายกลับต้องไปอาศัยนอนใต้สะพาน
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้สูงอายุ ชีวิตสุดรันทด ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ต้องไปอาศัยอยู่ใต้สะพาน บริเวณถนนเลี่ยงเมือง ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบ “ป้าแมว” หรือ นางสาวแมว ฉิมเอม อายุ 58ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 314 หมู่ 6 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยป้าแมวเล่าว่า ในช่วงวัยสาวตนเองทำงานกลางคืน เป็นสาวบาร์เบียร์อยู่ที่กรุงเทพ ทำงานอยู่หลายปี สามารถเก็บเงินส่งมาให้แม่ สร้างบ้านอยู่อาศัยกับน้อง ๆ อีก 9คน โดยบ้านหลังดังกล่าวก็ยกให้เป็นบ้านของแม่ แต่ต่อมาแม่กลับยกบ้านหลังนี้ให้กับน้องสาว เมื่อแม่ของ “ป้าแมว” เสียชีวิต ป้าแมวก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นอีก จึงรวบรวมเงินก้อนเท่าที่มี ไปปลูกกระท่อมอาศัยอยู่ในที่ดินของน้องสาวคนที่ 9 แต่เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้วน้องสาวเจ้าของที่ดินที่ป้าแมวอาศัยปลูกกระท่อมอยู่ ก็ขายที่ดินผืนนั้นไป ป้าแมวไม่มีที่อยู่ที่อื่น อีกทั้งไม่อยากจะไปขออาศัยใครให้เป็นภาระ จึงได้เก็บข้าวของ ที่นอน หมอน มุ้ง และเครื่องครัวเท่าที่มี มาอาศัยอยู่ใต้สะพาน ให้พอคุ้มแดด คุ้มฝน และอาศัยเก็บผัก หาปลาเป็นอาหาร ไม่มีรายได้อย่างอื่น
“ป้าแมว” ยังได้กล่าวอีกว่า ตนเองคิดปลงกับชีวิต ที่จะต้องไร้บ้านไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาจจะเป็นเวรกรรมที่เคยสร้างมา ดังนั้นก็จะไม่ดิ้นรน หรือโทษโชคชะตา หรือโทษว่าเป็นความผิดของใคร เพราะไม่อยากจะก่อเวร สร้างกรรม เพิ่มขึ้นมาอีก คิดแต่ว่าในช่วงบั้นปลายของชีวิต ก็จะก้มหน้ารับกรรม เพื่อให้หมดสิ้นไปแค่ในชาตินี้เท่านั้น
ป้าแมวเล่าว่า ตนเองทำงานมาค่อนชีวิต ไม่มีครอบครัว ไม่มีสามีและลูก โชคดีที่เมื่อ 3 ปีก่อนได้รู้จักกับลุงบุญส่ง แสงจันทร์ อายุ 67 ปี ที่เห็นใจ เข้ามาดูแลเป็นคู่ชีวิตในบั้นปลาย แม้ว่าจะต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก ก็จะดูแลกันไป ส่วนเรื่องความช่วยเหลือ ป้าแมวบอกว่า ตนเอง และลุงบุญส่ง สามารถใช้ชีวิตอยู่ใต้สะพานได้ อย่างไม่ยากลำบาก แต่หากจะต้องการให้ความช่วยเหลือ ก็ขอเพียงมีที่สร้างกระท่อม ให้ ป้าแมว และลุงบุญส่ง พออาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว
ที่มา :http://www.siamupdate.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น