ตำรวจฟื้นคดี ลุยล่าตัวเศรษฐินี จ้างฆ่า ริ้วแพร โชติการ ว่า ที่ลูกสะใภ้ กีดกันรักลูกชาย เหตุฐานะด้อยกว่าครอบครัวตัวเอง หลังเศรษฐินีจัดฉากแกล้งเป็นลมตาย หวังหนีโทษประหาร บุตรชายให้การลับหลัง ศาลลดโทษสั่งจำคุกตลอดชีวิต
วาน นี้ (28 ตุลาคม 2558) พ.ต.อ. สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6บก.ป.นำกำลัง เจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป.จำนวน 40 นาย พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสงขลา ที่236/2558เข้าตรวจค้นบ้านพัก 10 หลัง ใน ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของ นายสมศักดิ์ วาณิชสุวรณ หรือ โกหมิ่น หาดใหญ่ เจ้าของห้างทองสุวรรณศิลป์เซียนพระชื่อดังและผู้กว้างขวางใน อ.หาดใหญ่ และเป็นน้องเขยของ นางจุรี จันทร์งาม อายุ 73 ปี ชาว ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ในความผิดฐานจ้างวานใช้ให้ฆ่าผู้อื่นแล้วจัดฉากการตาย ระหว่างประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์
โดยคดี นี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 13 ธันวาคม 2550 เกิดเหตุมือปืนบุกยิง น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกร โรงพยาบาลควนเนียง ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน และนายอดิศร์ ประทีปทัศน์ พนักงานจัดยา ที่ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์อย่างโหดเหี้ยม เสียชีวิตทั้งคู่ เหตุเกิดที่คลินิกเวชกรรมของ นพ.รังสรรค์ รัตนพันธ์ ใน อ.ควนเนียง
จาก การสืบสวนพบว่า น.ส.ริ้วแพร ผู้ตาย กำลังจะแต่งงานกับ นายวิกรม จันทร์งาม อายุ 36 ปี บุตรชายคนเดียวของ นางจุรี แต่ นางจุรี ไม่ยินยอม เนื่องจากบ้านตัวเองมีฐานะดี เป็นเศรษฐีมีหน้ามีตาของ อ.หาดใหญ่ ส่วนครอบครัวของ น.ส.ริ้วแพร นั้นมีฐานะที่ด้อยกว่า ต่อมา พ.ต.ท. ศักดา เจริญกุล รองผู้กำกับกลุ่มงาน สืบสวน ภ.จว.สงขลา (ในขณะนั้น) ได้จับกุมทีมมือปืนได้ 2 ราย ประกอบด้วย นายนรินทร์ จันทร์ฉาย อายุ 36 ปี และ นายจำนงค์ คงสุวรรณ อายุ 40 ปี ทั้งสองให้การซัดทอดว่า นางจุรี ได้ว่าจ้างให้สังหาร น.ส.ริ้วแพร เป็นเงิน 5 แสนบาท ซึ่งต่อมาตำรวจได้ตามจับกุม นางจุรี ได้
ทั้ง นี้ ในศาลชั้นต้น อัยการไม่สั่งฟ้อง นายจำนงค์ เพียงคนเดียว ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ต่อมา ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่ นางจุรี ได้วางหลักทรัพย์ 5 ล้านบาทขอประกันตัวไป กระทั่ง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 น.ส.รัศมี จันทร์งาม อายุ 40 ปี ลูกสาวของ นางจุรี และทนายได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา ว่า นางจุรี ได้ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บ้านใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และได้เผาศพที่วัดมณีสพ ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 พร้อมยื่นใบมรณะบัตรเป็นหลักฐานการตาย เพื่อขอให้ศาลคืนเงินประกัน
ซึ่งศาลฎีกา จังหวัดสงขลามีคำสั่งให้ไต่สวนการตายของ นางจุรี โดย น.ส.รัศมี อ้างว่ามารดาเสียชีวิตจากเป็นลม และได้ไปพบผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งการตาย และขอให้ออกหนังสือรับรองเพื่อนำไปเป็นหลักฐานแจ้งให้นายอำเภอ โดยไม่ได้ส่งศพไปที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม อัยการจังหวัดสงขลาในฐานะผู้คัดค้านนำพยานเข้าสืบ 6 ปาก คือ เจ้าหน้าที่รับแจ้งการตาย ปลัดอำเภอ สัปเหร่อวัดมณีสพ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาส รวมถึง ร.ต.ท. สิทธิพร ขันธ์พระแสง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ยืนยันว่าไม่มีการจัดงานศพและเผาศพ นางจุรี แต่อย่างใด และไม่มีพยานคนใดเห็นศพ นางจุรี ศาลฎีกาพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า นางจุรี ยังไม่ได้ถึงแก่ความตาย และเชื่อว่ามีพฤติกรรมหลบหนี ศาลฎีกาจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังว่า นางจุรี ผิดตามฟ้อง แต่ นายวิกรม บุตรชายให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวน เป็นเหตุบรรเทาโทษแก่ผู้เป็นมารดา จึงลงโทษ นางจุรี เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายนรินทร์ พิพากษายืนให้ประหารชีวิต
ต่อ มา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 ที่ผ่านมานางฤดีมาศ สิงห์มณี อายุ 55 ปี มารดา น.ส.ริ้วแพร ได้เข้าร้องเรียนให้ พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จนสืบทราบว่า นางจุรี หนีมากบดานที่บ้านของนายสมศักดิ์ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นในวันนี้ แต่ก็ไม่พบตัว นางจุรี แต่อย่างใด ซึ่งจากการสอบถามพยานทราบว่า เห็นลูกสาว นางจุรี สองคนแวะเวียนเข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นประจำ นอกจากนี้พยานยังยืนยันด้วยว่า เห็น นางจุรี เดินทางเข้าออกจากบ้านหลังดังกล่าวเมื่อ 3-4 เดือนก่อน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน
ที่มา : http://www.siamupdate.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น