โดยมี นายสังเวียน อินเปีย อายุ 45 ปี อาชีพตีผึ้งในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มานานเกือบ 20 ปี ได้นำดอกไม้พร้อมจุดธูปทำพิธีขอขมาเจ้าที่และเทพาอารักษ์ ที่รักษาต้นไม้และดูแลรังผึ้ง เพื่อจะนำน้ำผึ้งจากรังที่พบเห็นมาบริโภคดื่มกินและทำยา 108 รักษาโรคตามโบราณ ส่วนหนึ่งจำหน่ายขายให้กับคนทั่วไป เพื่อนำรายได้เลี้ยงดูครอบครัว โดยนำดอกไม้และธูปปักไว้ที่โคนต้นมะขาม เพื่อเป็นการแสงความเคารพสักการะ
จากนั้นเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการตีผึ้ง ประกอบด้วย ถุงพลาสติกและกากมะพร้าวจำนวนหนึ่ง พร้อมชุดสวมใส่ปิดบังใบหน้า เพื่อป้องกันฝูงผึ้งบุกเข้าโจมตี แล้วเดินไปยังต้นมะขามเพื่อขอขมาเทพารักษ์พระภูมิเจ้าที่และฝูงผึ้ง ก่อนปีนขึ้นต้นไม้เพื่อนำรังผึ้งลงมา
โดย ปีนถึงจุดรังผึ้งหลวงขนาดใหญ่ พร้อมจุดไฟใส่กากมะพร้าวที่จัดเตรียมไว้ เพื่อให้เกิดควันไฟและลนไปยังรังผึ้ง ส่งผลทำให้ผึ้งแตกกระจายตัวออกจากรัง บินหลบควันไฟหนีลงมายังใต้ต้นมะขาม เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นทีมผู้ช่วยซึ่งอยู่ด้านล่าง ก็จุดกากมะพร้าวไล่ผึ้งหลวงที่หนีลงมาให้หนีไปที่อื่น พร้อมเร่งรีบนำรังผึ้งใส่ถุงที่จัดเตรียมไว้ ลงจากต้นมะขามและนำไปเก็บไว้ที่ปลอดภัย
เมื่อเปิดถุงที่ใส่รังผึ้งออก พบน้ำผึ้งในรังมีสีแดง จึงใช้มีดตัดรังผึ้งบางส่วน พร้อมบีบน้ำผึ้งให้ไหลออกมา ปรากฏน้ำผึ้งที่ได้หยดเป็นสีแดงฉานคล้ายสีเลือด สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมากให้กับผู้ที่พบเห็น จึงนำน้ำผึ้งส่วนหนึ่งใส่ใบตองถวายให้กับเทพารักษ์พร้อมพระภูมิเจ้าที่เพื่อ แสดงการขอบคุณที่ให้น้ำผึ้งสีแดงมาในครั้งนี้
ทั้งนี้ ได้ตัดรังผึ้งส่วนหนึ่งแจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนรับประทานกันหลังทราบข่าว รังผึ้งขนาดใหญ่ถูกตัดนำลงมาแล้ว สร้างความดีใจให้กับเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก ที่ไม่ต้องหวาดกลัวผึ้งแตกรังบุกเข้าต่อยแต่อย่างใด
นาย สังเวียน กล่าวว่า ยึดอาชีพตีผึ้งมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยพบเห็นมาก่อนตั้งแต่ตีผึ้งมา ถือเป็นน้ำผึ้งที่หายากมาก ราคาน้ำผึ้งสีแดงจะสูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป ชาวบ้านเชื่อว่าหากใครได้บริโภคหรือดื่มน้ำผึ้งแดงจะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ในร่างกายให้มากขึ้น สร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย ที่สำคัญจะช่วยทำให้อายุยืน เพราะมีสรรพคุณทางยาสูงกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่น ที่เป็นสีเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นน้ำหวานจากดอกสาปเสือ ดอกลิ้นจี่ ดอกลำใย ดอกเงาะ ดอกทุเรียน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าน้ำหวานสีแดงที่ได้มานี้ มาจากดอกไม้ชนิดใด
“การตีผึ้งครั้งนี้เป็นวิธีธรรมชาติที่ไม่ไปทำร้ายตัวผึ้ง เป็นการใช้ควันไฟไล่ตัวผึ้งให้หลบหนีออกไปจากรัง สำหรับรังผึ้งที่ตีได้ เมื่อนำลงมาแล้วเหลือเนื้อในกว้าง 80 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร ประกอบด้วย ขี้ผึ้งส่วนที่สกัดจากสารดอกไม้ ส่วนที่สองวงในที่เป็นรังร้างของลูกน้อยที่โตเป็นตัวผึ้งเริ่มออกไปหาอาหาร ได้แล้ว และส่วนสุดท้ายรังผึ้งส่วนที่เก็บน้ำหวาน ซึ่งเหลือจากการเลี้ยงดูตัวอ่อน น้ำผึ้งแดงที่ได้มีปริมาณ 3,500 ซีซี เท่ากับขวดกลม จำนวน 4 ขวด”
ที่มา : http://www.bigza.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น