20:39
0

บางครั้งโชคตะชาชีวิตก็เล่นตลกกับเราจนเกินไปนะคะ คนที่คิดว่าจะไม่เจอกันอีกแล้วในชาตินี้ บางทีก็ยังหวนกลับมาในรูปแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เจ้านายกับลูกน้อง แต่นั่นยังน้อยไปค่ะ! ตราบใดที่ยังไม่ใช่ “แฟนเก่าของเรา” ที่ย้อนรอยเข้ามาในชีวิต ในฐานะ “แฟนใหม่ของแม่” ดังเช่นกรณีของหญิงสาวคนนี้

มีเรื่องคาใจมานานจนทุกวันนี้…ฟังเลยนะคะ
สมัยนั้นเราเรียนมอปลายมีเพื่อนแนะนะผู้ชายให้รู้จักคนนึงชื่อ ค (ค เป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนเรา) รู้จักกันทางโทรศัพท์ คุยกันได้4-5เดือน แม่เราก็รู้ว่าคุยกะใครก็ไม่ได้ว่าไร วันนึงนัดเจอกันไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนัง พอตอนเย็นเค้าก็จะมาส่งเรา ระหว่างทางเจอแม่พอดี เราก็ตกใจ(แม่กำลังจะไปตลาด) แม่ก็ถามใคร อะไร ยังไง เราก็บอกคนนั้นไง ที่คุยโทสับ แม่ไม่ว่าไรเลย ยิ้มๆ แบบงงๆ แบบเดี๋ยวคุยกันที่บ้านนะไรงี้

พอแยกกะเค้า เราก็เล่าว่าไปไหนกันมาว่าไป เล่ารายละเอียดนิสัยใจคอ แม่บอกรู้สึกถูกชะตา จากวันนั้นมาเค้าบอกจะย้ายมาอยู่กะเรา แบบให้เราหางานแถวบ้านเราให้หน่อยจะได้เจอกันได้บ่อยๆ เราก็บอกแม่ให้ฝากงานให้ไรงี้ แม่ก็รู้จักกะเจ๊ร้านหนังสือ ก็ฝากงานให้ เค้าก็มาทำงานที่นั่นเพราะมีที่พักให้

พอนานวันมันก็ดี สนิทสนมกัน แม่ก็บอกพี่ชายว่าคนนี้แฟนเรา เพราะพี่เริ่มเห็นว่าเรามีโทสับใหม่ มีของใช้ใหม่ๆเค้าคงถามมั้งว่าใครให้มา แม่เลยบอกพี่ชายว่ากิ๊กเราซื้อให้ นานๆไปเราก็อยากให้เค้าเข้ามารู้จักกะคนในบ้าน แม่ก็เลยบอกกะพ่อให้ว่า ค เป็นเพื่อนของพี่ชาย เค้าจะได้เข้าบ้านมากินข้าว มานั่งเล่นได้ไรงี้ ตกเย็นหลังเลิกงาน เค้าจะมากินข้าวที่บ้านเราทุกวัน แล้วก็มาซ้อมวอลเล่กะเราที่บ้าน มันก็สนิทสนม เป็นแบบนี้มาได้ประมาณ5-6เดือน

จนวันนึงพ่อเกิดสงสัยว่าเวลาที่พี่ชายไม่อยู่บ้าน ทำไม ค ก็มา แล้ว ก็ไม่เห็นคุยอะไรก็พี่ชายเรามาก ส่วนมาจะคุยกะเรากะแม่มากกว่า และพ่อก็มาเห็นจดหมายที่เราเขียนให้ ค (เราทำตกไว้ในห้องน้ำ) พ่อก็มาเห็นพอดี พ่อก็เลยรู้ว่า ค คบกะเรา ดูท่าทางพ่อจะไม่ชอบด้วย เพราะบางวันที่เราไป รร ช่วงกลางวัน ค ก็มากินข้าว พ่อคงเห็นว่ามาสนิทกะแม่ด้วยมั้งเลยไม่ค่อยชอบ คงคิดแบบจะมาทำไม ย่าเราก็อยู่ที่บ้านด้วย ย่าเราก็ไม่ชอบ ค เหมือนกัน พ่อเลยบอกแม่ว่าให้ ค ไม่ต้องมาแล้ว

(ช่วงนั้นเค้าเริ่มทำตัวไม่ดี นัดไม่เป็นนัด แล้วเรามาจับได้ว่าเค้าติดยาด้วย เราเลยเริ่มออกห่าง และอีกอย่างตอนนั้นมีหนุ่มๆเข้ามาชอบเราด้วยมั้ง ก็เลยเริ่มห่างกัน) จากที่พ่อบอกไม่ต้องให้มาแล้ว แม่เราก็สงสาร เพราะ ค ไม่มีใครเลย ที่นี่รู้จักเพียงแค่เรากะแม่เท่านั้น แม่ก็เลยทำกับข้าว แล้วชวนเราเดินเอาไปให้เค้าเป็นเพื่อน ใจเราก็คิดว่าอะไรกันวะนี่ ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ อีกอย่างแม่เราเป็นคนดีมากด้วยมั้ง คือแม่เราเป็นคนที่แบบใจดีมาก มีแต่ให้ เพราะเรารู้นิสัยแม่เราอยู่แล้ว เราเลยไม่คิดไร

พอเป็นแบบนี้ไปสักระยะ พ่อก็มาจับได้ว่าเอาข้าวไปให้ทำไม แม่เราบอกสงสาร( เรามองสถานการณ์ดูแล้วเหมือนพ่อจะคิดว่าแม่ชอบ ค รึป่าว แต่เราลึกๆเราก็คิดเหมือนกันนะ ) แม่เราก็อธิบายเหตุผลไป แล้วเรื่องก็จบลงด้วยดี เค้าก็มากินข้าวได้ตามเดิม

ช่วงนี้เราเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะคะ มันผ่านเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆเยอะมาก เราขอเล่าแบบย่อๆละกันนะคะ ตอนนั้นเราเรียนมหาวิทยาลัย ถ้าถามถึงความสัมพันธ์ เราก็ยังมีนะคะ นึกถึงบ้าง แต่ที่เค้าทำกับเราใจร้ายกับเรา ไปเอาคนอื่นด้วย มันก็เลยทำให้เราตัดใจง่าย บวกกับเรามีสังคมใหม่ๆเลยไม่ได้อะไรกันอีกค่ะ เวลาเรากลับไปบ้านวันศุกร์ ก็จะเจอเค้าตอนเย็น แต่ไม่ได้คุยกันนะคะ เค้ามาหาแม่ เหมือนแม่เป็นแม่ของเค้าอีกคน มีไรก็มาคุยให้ฟัง

จนมาวันนึงเป็นวันศุกร์ เรากะลังนั่งรถกลับบ้าน ประมาน3-4ทุ่มได้ แม่ก็โทรมาแบบแปลกๆ เราจำคำพูดไม่ได้ว่าไร แต่ดูเหมือนกลัวๆกังวล พอมาถึงย่าบอกว่าเห็นแม่กอดกับ ค เราก็งงฮะ พ่อก็บอกไม่ต้องมายุ่งอีก แล้วย่าก็พูดเหมือนจะไล่แม่ออกจากบ้าน ทะเลาะกันเรื่องนี้แทบทุกวันเลยแม่กะพ่อ จนมาวันนึงพ่อมาขอหย่า(พ่อเหมือนประชด) แม่ก็ประชดเหมือนกัน หย่าก็หย่าแม่บอก เรื่องราวมันกระท่อนกระแท่นมาสักระยะ

จนมาวันนึงย่าบอกพรุ่งนี้ให้ออกไปจากบ้าน แม่ก็มาเล่าให้เราฟังว่าย่าพูดไรแบบนี้ ชวนให้เราไปหาบ้านอื่น เราก็มาเจอบ้านหลังนึง ไม่ใกล้ไม่ไกลบ้านเดิม อยู่ดีๆแม่ก็ย้ายเลย เหมือนพ่อก็มาง้อนะคะ แต่พ่อว่าแม่ไว้เยอะด้วยมั้ง แม่ก็เลยไม่คืนดี เราก็รักแม่มากกว่าพ่อ ก็แบบย้ายก็ย้ายมาอยู่บ้านใหม่

วันนึงเราจะไปมหาลัยตอนเช้า แม่จะมาส่งขึ้นวิน เจอ ค ขี่มอไซผ่านมาพอดี เราเลยบอกไปส่งหน่อย เราก็กำลังจะขึ้นมอไซจะบอกแม่ไปแล้วนะ หันมาอีกทีแม่รีบเดินไปเลย ซึ่งปกติแม่จะยืนบ๊ายบ่ายเราทุกครั้ง เราก็คิดว่าแม่ไม่พอใจหรอ รึยังไง

อีกเหตุการณ์นึง เราเข้าไปบ้านพ่อ จะไปเก็บของเก่าๆ เราเห็นจดหมายอยู่หลังตู้ แม่เหมือนเขียนระบายอารมณ์ สรุปประมาณว่านี่เราแบบคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ไปชอบเด็ก เราจำคร่าวๆได้แค่นี้ เราก็ไม่ถามแม่นะ ไม่เคยถามเลย เรื่องนี้อยากจะถามแต่กลัวแม่จะอึ้กอั้กตอนตอบเรา เพราะเราคิดว่าเราน่าจะรู้คำตอบเอง จากอะไรหลายๆอย่าง เราคิดว่าไม่ถามดีกว่า
อีกเหตุการณ์นะคะ แม่เราบอกว่าจะไปหาเพื่อน ซึ่งวันนั้นเราก็จะออกไปหาเพื่อนพอดี เราก็รู้นะคะว่าบ้านเค้าอยู่เลยบ้านเราไปนิดนึง เราก็เลยเดินออกมาพร้อมแม่ แม่แบบจะส่งเราขึ้นวินก่อนให้ได้เลย แต่เราบอกแม่จะเข้า 7-11ก่อน เราก็ซื้อนู่นนี่นั่น แม่เราซื้อขนม2ห่อใหญ่ เราถามแม่ซื้ออันนี้ไปฝากเค้าเนี่ยหรอ เพราะเพื่อนแม่คนนี้เป็นพวกรักสุขภาพ แม่บอกซื้อไปฝากลูกเค้า และแล้วเราก็ขึ้นวินมา จากนั้นเราก็ไปหาเพื่อนแปปเดียว เราก็กลับบ้านมาก่อนแม่ เราก็โทรหาถามว่ายุไหน กลับยัง
แม่บอกนั่งดูลูกของเพื่อนนั่งเล่นแบตกันอยู่ ซึ่งน้ำเสียงมันไม่ใช่เลย เหมือนโกหกเราอ่า เราก็ไม่ได้ถามมาก ก็วางสายไป เราก็นั่งรอแม่อยู่หน้าบ้าน แม่กลับมาตัวป่าวนะคะ พอตกดึกเราตื่นมาเห็นขนมวางอยู่ เห็น ค มันมานั่งหน้าบ้าน เราขึ้นมาถามแม่ว่าขนมที่ซื้อไปเค้าไม่เอาหรอ แม่บอกเค้าไม่กินเลยเอาคืนมาไว้ให้เรากิน คือเข้าใจป้ะ ตอนที่แม่เข้าบ้านมา แม่ไม่ได้ถือขนมมาด้วยนะ คือเราเสียใจนะ บอกตรงเลย ทำไมแม่ทำแบบนี้ในหัวตลอดๆๆๆๆ

จากนั้น ค ก็มาบ้านใหม่แม่บ่อย มา เช้า กลางวัน เย็น มาช่วยซื้อของตอนเช้า มาช่วยเปิดร้านขายของ มากินข้าว เราก็คิดนะว่าเวลาเราไม่อยู่เค้าจะมานอนมั้ยยย ในใจก็ได้แต่คิด บางทีนะเราคุยกะแม่ ทะเลาะกะแม่ ค ก็สาระแนมาบอกแม่ปล่อยวางๆ เราก็บอกให้แม่บอกมันไม่ต้องมาบ้านอีก แม่บอกไล่แล้วไม่ไป ให้เราไล่มันไปสิ เรานี่แบบท้อเลยอ่าเชื่อมั้ยย

นานๆไป แม่บอกเค้าตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง(นี้คือเค้าทำงานที่ใหม่แล้วนะคะ แม่เราก็เป็นคนพาเค้าไปหาห้องอีกด้วย เห้อออออ ) เค้าก็มานอนหน้าบ้านนะคะ นอนเตียงพับ เหมือนเฝ้าบ้านให้ เราถามแม่เค้าจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แม่บอกเห็น ค บอกว่า เดือนหน้าไรงี้ แล้วมันก็ผ่านมาเป็น เดิอน เป็นปี ตอนนี้เค้าก็ยังอยู่นะคะ ใจเราคิดนะคะ ว่าเวลาที่เราไม่อยู่เค้าต้องขึ้นมานอนกะแม่แน่เลย ใจก็ไม่อยากคิดแบบนั้นเลยจริงๆ

ช่วงนั้นปิดเทอมเราก็มาอยู่บ้าน เราไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆช่วงนั้น วันนั้นกลับมาตี2เกือบตี3ได้ มันไม่นอนอยู่หน้าบ้าน ใจเราคิดและ มันต้องนอนข้างบนแน่เลย เราเลยย่องๆเปิดประตูเบาๆ เตรียมใจไว้ละ ก็เดินขึ้นมา เห็นแม่นอนกะ ค แต่นอนไม่ได้กอดกัน นอนด้วยกันเฉยๆ เราก็เรียกแม่เสียงดัง ในใจเสียใจมากเลยนะ มันบอกไม่ถูก แม่เราก็งัวเงียๆ ค มันก็ตื่นมา ทำงัวเงียเดินลงบันไดไป เราก็นั่งร้องไห้นะ แม่เราก็หลับต่อ ในใจถามตัวเองนะ คือไรๆ ก็ได้แต่ถามตัวเองไป

จากนั้นมา ค โดนตำรวจจับเรื่องเล่นยา แม่เราไปเยี่ยม ค ที่โรงพักทุกวันเอาข้าวไปให้ตอนเช้า แบบเวลาเยี่ยมอ้ะค่ะ จากนั้นขึ้นศาลโดนส่งตัวไปเรือนจำ แม่เรานั่งรถไปหา ค ทุกวัน หลังจากปิดร้าน พอกลับมาที่บ้านก็จะบ่นว่านั่งรถเวียนหัว เราก็ถามแม่จะไปทำไม แม่บอกสงสารเค้า ไม่มีอะไรกิน ไม่มีใคร พอไปเห็นตาละห้อยแบบคอยว่าจะมีคนมาเยี่ยมมั้ย แม่เล่าแนวนั้น เห้อออออ รู้สึกปลงเนอะ เราก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้วแหละ

แม่เราช่วย ค ทุกอย่าง จน ค ออกมาได้ ค บอกจะเป็นคนใหม่ ไม่ยุ่งกะยาเสพติดอีก และเค้าก็มาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม ช่วยงานแม่ทุกอย่าง ซักผ้า ล้างจาน เปิดร้าน ทำเหมือนให้เราเห็นความดีรึป่าวมั้ง จากนั้นเราก็นั้งเล่นอยู่ข้างล่างเห็นกระเป๋าแขวนตรงบันได ข้างในมีถุงใส่สมุดเล่มนึงอยู่ เราก็เอามาอ่านจับใจความได้ว่า แม่เขียนถึง ค ทุกวัน ตอนที่เค้าไปอยู่เรือนจำ จำประโยคนึงได้ว่า เห็นเสื้อผ้าเทอแล้วคิดถึงกลิ่นเทอ เห้อออออออออ ตามนั่นค่ะ

และแล้วเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้เอง เราไปเที่ยวกับเพื่อนกลับมาตี2 เห็น ค ไม่อยู่หน้าบ้าน ก็เลยลองย่องอีกครั้ง ขึ้นไปเห็น ค นอนดูหนังอยู่ แม่นอนหลับ นอนกอด ค พอ ค เห็นเราก็ตกใจนิดๆ เรียกแม่เรา แม่เราก็งัวเงีย บอกเรากลับมาแล้วหรอลูก

เรื่องราวคร่าวๆมันก็มีเท่านี้นะคะ ในใจเรามีแต่คำถามนะคะว่าทำไมแม่ทำแบบนี้ๆๆๆ ไม่นึกถึงใจเราบ้างหรอ ว่าเราจะคิดยังไง นี่มันแฟนเก่าเรานะแม่ อยากจะถามมากๆเลยนะคะ แต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ คิดว่าคนเราทุกคนมันก็ต้องมีเหตุผลส่วนตัวกันทั้งนั้น อาจเป็นเพราะว่าพ่อเราไม่ทำงาน ไม่ช่วยแม่ค้าขาย อยู่บ้านเฉยๆด้วย พอแม่มาเจอ ค แม่ก็เลยชอบ เพราะ ค ขยัน มั้งคะ หรือเค้าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อน หรือคงเป็นเวรกรรมที่ทำร่วมกันมา

เราก็ต้องคิดแบบนี้ ถ้าไม่คิดแบบนี้มันก็จะมีแต่ความโกรธเคือง เสียใจ น้อยใจ เพราะทุกวันนี้ก็ยังคงเจอหน้ากันทุกวัน อยู่บ้านเดียวกัน เวลากินข้าวแม่ก็จะถาม ค ว่ากินข้าวยัง เห้ออออ ทำไมชีวิตเราเป็นแบบนี้น้าา แต่ ค ก็ดี ช่วยแม่ทุกอย่างถ้าเปรียบเทียบกับพ่อ พ่อไม่เคยเลยให้แม่ทำคนเดียวตลอด

ทุกวันนี้เราพยายามเข้าใจ เข้าใจอย่างเดียวเลย แต่ก็มีปากเสียงกันบ้างนะคะ แต่ความเข้าใจทำให้เราดำเนินชีวิตต่อไปได้ค่ะ เราแค่อยากจะระบาย อยากจะเล่าเรื่องราวชีวิตของเราให้ฟัง เพราะเรื่องนี้เราไม่สามารถบอกใครได้ ได้แต่ทำดีกับแม่มากๆ หวังว่าสักวันเราคงจะหลุดพ้นจากกรรมนี้ เราคิดเสมอคะว่านี่เป็นเพียงด้านมืดของแม่ เราพยายามจะไม่มองและจะพยายามลืมมันไปค่ะ ขอมองด้านสว่างของแม่เพราะสิ่งดีๆที่แม่มีให้เรามันเทียบไม่ได้เลย

เราไม่มีเหตุผลไรมากมายที่มาเล่าให้ฟังนะคะ แค่อยากระบายเท่านั้น เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ สู้ต่อไปค่ะ



ที่มา  : http://www.bigza.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น